!!! ตำนานรักด้ายแดง !!!
คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตมั้ย?
คุณเชื่อเรื่องด้ายแดงหรือไม่?
คุณเชื่อเรื่องการนำพาหรือไม่?
คุณเชื่อเรื่องโชคชะตามั้ย?
ดิฉันเป็นคนนึ่งที่ "ไม่เคยเชื่อ" เรื่องพวกนี้เลยสักนิด ดิฉันไม่เคยเชื่อเลย
จนวันนึ่ง....ที่ดิฉันได้พบกับเขาคนนั้น อยู่ๆเขาก็เข้ามาทำให้ชีวิตของดิฉันเปลื่ยนไป....
ด้ายแดงคือเส้นของเนื้อคู่ผูกที่นิ้วก้อยข้างใดข้างหนึ่ง ด้ายแดงเป็นเส้นด้ายที่มองไม่เห็น
และไม่สามารถสัมผัสได้ ไม่ว่าเนื้อคู่ของเราจะอยู่ห่างไกลกันไปมากแค่ไหนแต่เส้นด้ายแห่ง
เนื้อคู่จะนำพามาพบกัน....
เป็นความเชื่อเกี่ยวกับความรักของชาวจีนเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงออกถึงคู่แท้ โดยมีเรื่องเล่าว่า
ในสมัยราชวงศ์ถังมีชายคนหนึ่งนามว่า “เหวยกู่” หนุ่มรูปงามมีฐานะ ได้พบกับชายแก่คนหนึ่งนั่งอ่านหนังสือประหลาดอยู่
เขาจึงเข้าไปถามว่าอ่านหนังสืออะไร ชายแก่ได้ตอบกลับว่ากำลังอ่านตำราการแต่งงานของชาวโลก เหวยกู่รู้สึก
ไม่เชื่อคิดว่าเป็นชายแก่เสียสติ แท้จริงแล้วชายแก่คนนั้นคือ “เฒ่าจันทรา” มีหน้าที่เป็นพ่อสื่อชักนำคนรักให้กับมนุษย์โลก
“เฒ่าจันทรา” จะเป็นผู้ผูกด้ายแดงไว้ที่นิ้วของชายหญิงที่เป็นเนื้อคู่กัน และเมื่อผูกแล้วหากถึงเวลาจะได้แต่งงานกัน
ไม่ว่าจะมีอุปสรรคขวากหนามมากมายเพียงใดก็ตาม ด้ายแดงที่ว่านี้จะล่องหน มีเพียง
“เฒ่าจันทรา” เท่านั้นที่เห็น
โดยด้ายนี้อาจจะมีการผูกปมเพื่อให้พบรักกันเร็วขึ้นก็เป็นได้ หรือหากท่านเห็นว่าความรักนี้ไม่เหมาะสมก็จะใช้
“กรรไกรตัดวาสนา” ตัดด้ายแดงออกทำให้หมดสิทธิ์รักกัน
เหวยกู่รู้สึกสนใจจึงถาม “เฒ่าจันทรา” ไปว่า แล้วคู่ครองของตนเป็นคนอย่างไร เฒ่าจันทราได้พาเหวยกู่ไปหาเนื้อคู่
แต่ทิศทางที่ไปไม่ได้ไปยังชุมชนของคนมีฐานะ หากแต่ไปยังตลาดเก่าแห่งหนึ่ง
และเฒ่าจันทราได้ชี้ให้เหวยกู่ดูเด็กน้อยเนื้อตัวมอมแมมที่เป็นลูกสาวของแม่ค้าในตลาด พร้อมกับบอกว่า
“นั่นแหละคือเนื้อคู่ของเจ้า” ก่อนที่จะหายตัวไป เหวยกู่รู้สึกโมโหมากเมื่อรู้ว่าคู่ครองของตนเป็นเด็กน้อยเนื้อตัวมอมแมม
เมื่อกลับถึงบ้านจึงจ้างให้คนรับใช้ในบ้านไปสังหารเด็กน้อยคนนั้น เมื่อเวลาผ่านไปหลายปีเหวยกู่สอบได้เป็นจอหงวน
พร้อมกับเจ้าเมืองได้ยกลูกสาวให้เป็นคู่ครอง ชีวิตกำลังรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก
และคิดว่าคำบอกเล่าของเฒ่าจันทราเป็นเรื่องโกหก
หลังจากครองคู่กันได้ระยะหนึ่ง เหวยกู่ก็สังเกตว่าที่หน้าผากของภรรยามีสัญลักษณ์บางอย่างอยู่ จึงถามนางว่าคืออะไร
นางได้เล่าให้ฟังว่า แท้จริงแล้วนางไม่ได้เป็นลูกสาวของเจ้าเมือง หากแต่เป็นลูกของแม่ค้าจนๆ
ในวัยเด็กมีชายคนหนึ่งใช้มีดกรีดหน้าของตนแล้วจากไป และเจ้าเมืองผ่านมาเห็นเหตุการณ์
เข้าพอดีจึงรับอุปการะตนเป็นลูกสาว เมื่อฟังจบเหวยกู่ได้ตามคนรับใช้ที่จ้างให้ไปสังหารมา
คนรับใช้ได้สารภาพว่า เขาไม่อาจทำใจสังหารเด็กน้อยคนนั้นได้ จึงเพียงใช้มีดกรีดหน้าเป็นสัญลักษณ์ไว้เท่านั้น
เมื่อเหวยกู่ทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว ทำให้เขารู้ว่าที่เฒ่าจันทราบอกไว้เป็นความจริง จึงทำการขอขมาภรรยาและแม่ของนาง
ก่อนที่จะครองรักกันไปอย่างมีความสุข